1.ดุลยภาพบำบัด คืออะไร?
ดุลยภาพบำบัด คือ การรักษาโดยยึดหลักสมดุลตามแนวทางธรรมชาติโดยคำนึงถึงโครงสร้างหน้าที่ของอวัยวะทุกระบบ สุขภาพจิตใจ อาชีพ อิริยาบทประจำวัน อาหาร และยังรวมถึงสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเราดังนั้นการรักษาโดยวิธีดุลภาพบำบัดนั้นจึงต้องมีการพิจารณาองค์ประกอบมากมายอย่างที่ได้กล่าวมาในข้างต้น ซึ่งมันเป็นวิธีที่ดีกว่าการแก้ปัญหาที่ใครหลายๆๆคนนั้นทำกันเป็นกิจวัตรเลยก็ว่าได้ เช่น เมื่อเรานั่งทำงานนานๆ เรารู็สึกปวดหัว ปวดหลัง ท้องผูก ปวดคอเป็นต้น ซึ่งถ้าคนเรานี้แก้ปัญหาโดยการที่ไปกินยาแก้ปวดอย่างพาราหรือนวดเพื่อให้อาการดีขึ้น แต่พอเราหยุดทำอาการก็จะกลับมาอีกครั้ง และบางที่การกินยานั้นยังส่งปลกระทบต่อไตของเราอีกด้วย
2.ดุลยภาพบำบัดรักษาโรคอะไรบ้าง?
เนื่องจากดุลยภาพบำบัด มีแนวทางการวิเคราะห์โรคและการบำบัดรักษาที่ต่างไปจากการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือกที่แยกเป็นสาขา ๆ โดยทั่วไป แต่เป็นการผสมผสานองค์ความรู้และภูมิปัญญาหลายด้านอย่างเป็นองค์รวม จึงสามารถประยุกต์ใช้บำบัดรักษาโรคหรืออาการป่วยใดใดก็ตามที่สามารถวิเคราะห์หาสาเหตุและกลไกของโรคตามแนวทางดุลยภาพบำบัดได้อย่างชัดเจน และใช้วิธีการดุลยภาพบำบัดแก้ไขสาเหตุและกลไกเหล่านั้นได้กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เราควรจะประยุกต์ใช้วิชาดุลยภาพบำบัดได้ในทุกสาขาการแพทย์และทุกโรค เพื่อจะได้ทราบและสามารถกำจัดและป้องกันสมุฏฐานของโรคนั้น ๆ อย่างครบถ้วนตลอดไปจนถึงโรคและอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แม้บางโรค อาจมีความจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องได้รับบำบัดรักษาด้วยยา สารเคมี ผ่าตัด หรือเทคนิควิธีการเฉพาะทาง แต่ดุลยภาพบำบัดก็ยังมีประโยชน์ ในการช่วยเสริมให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นช่วยให้สุขภาพโดยรวมดียิ่งขึ้น
ตัวอย่างโรคและอาการที่สามารถวิเคราะห์หาสาเหตุและกลไกได้อย่างชัดเจนและบำบัดรักษาได้ผลในเวลาอันสั้น รวดเร็วและหายได้อย่างยั่งยืน ได้แก่
- อาการปวดทั้งหลาย เช่น ปวดศีรษะ ไมเกรน ปวดคอ ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก ปวดข้อ ปวดประสาท เป็นต้น
- โรคเกี่ยวกับกระดูก ข้อและกล้ามเนื้อ เช่น ปวดข้อ ข้อเสื่อม ข้อกระดูกคอหรือกระดูกสันหลังเสื่อม ปัญหาเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกสันหลัง กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น
- โรคเกี่ยวกับตา หู คอ จมูก เช่น ตาแห้ง ตาระคายเคืองเรื้อรัง ตาแพ้แสง เจ็บคอบ่อยหรือเรื้อรัง ปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับการได้ยินและการทรงตัว อาการคัดจมูกน้ำมูกไหลแบบที่เรียกว่าภูมิแพ้ เป็นต้น
- ยังมีโรคและอาการอื่น ๆ อีกมากที่อาจบำบัดรักษาได้ผลด้วยวิชาดุลยภาพบำบัด ซึ่งไม่อาจกล่าวถึงโดยละเอียดได้ครบถ้วน นอกจากนี้ ดุลยภาพบำบัดยังใช้ได้ผลดีในผู้ป่วยที่ไม่สบายด้วยหลายอาการหลายระบบร่วมกัน เช่น อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ ใจสั่น เหนื่อยง่าย ปวดเมื่อย ท้องอืด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ เป็นต้น
3.การักษาแบบดุลยภาพบำบัดต้องทำอย่างไร?
ขั้นตอนการรักษาก็แบ่งเป็นส่วนใหญ่ๆ2ส่วนด้วยกัน คือ:
- ให้ทางโรงพยาบาลช่วยแนะนำแนวทางในการแก้ไข้ส่วนที่ผิดปกติ โดยฝึกสอนท่าบิรหารที่ถูกต้อง
- ตัวผู้ป่วย เพราะว่าการบริหารร่างกายอย่างสมํ่าเสมอและการรู้จักอิริยาบทของตัวเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาอาการต่างๆให้หายดีขึ้น
4.ใช้เวลาเท่าไร?
ระยะเวลาในการรักษานั้นขึ้นอยู่กับโครงสร้างที่ผิดปกติและความร่วมมือของผู้ป่วย โดยปกติแล้วดรคที่เป็นโดยฉับพลันสามารถหายได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาในการรักษาแค่1-2ครั้งก็หายแล้ว แต่ถ้าเป็นโรคเรื้อรังอาจจะต้องรักษา5-10ครั้ง(2-3ครั้ง/สัปดาห์) และถ้าเมื่อมีอาการดีขึ้นแล้วผู้ป่วยก็ควรทำการบริหารต่อไปอย่างสมํ่าเสมอเป็นการป้องกันไม่ให้เป้นโรคเดิมอีกซั้าสอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น